ประเทศที่อาศัยอยู่ในสมองคนนอนหลับฝัน

พฤติกรรมของสังคมไทยถือว่าระบบโรงเรียนเป็นยุคเริ่มประวัติศาสตร์ของประเทศไทยหรือไม่? ..เพราะดูเหมือนตอนนี้ยึดถือกันว่าโรงเรียนคือทุกอย่าง ทั้งที่ยุคสมัยของบรรพชนของโลกไม่เคยมีมันมาก่อนแต่ได้สร้างองค์ความรู้ต่าง ๆ ไว้มากมาย ด้วยการ "ลงมือทำ". ..ไม่ใช่เข้าโรงเรียน. (มันไม่มีให้เข้าไง)

ประเด็นคือ ปัจจุบันคนที่ทำเหมือนบรรพชนเลย คือ "ลงมือทำ" และสะสมองค์ความรู้มาเองและเผยแพร่แบ่งปันนั้นกลับไม่ค่อยได้รัการยอมรับมากเท่า 'คนเข้าโรงเรียนมา' ทั้งที่ยังไม่เคยลงมือทำอะไร. //ตรงนี้ทำให้อารยธรรมชนชาติของประเทศไทยในช่วงเวลานี้ของประวัติศาสตร์ชะลอการวิวัฒนาการไปหรือไม่? เรามีคนลงมือทำจริงน้อยลงในขณะที่นักเรียนอย่างเดียวมีมากเกินไป โอลิมปิกวิชาการไม่สามารถส่งผลต่อการวิวัฒนาการใด ๆ ของประเทศได้ในช่วงที่ผ่านมานับสิบ ๆ ปี + พื้นที่สมองของประเทศหมุนวนไปในเนื้อหา "การเมือง".. ตกลงประเทศเราคิดหรือทำอะไรอยู่??? เป็นสมองของคนนอนหลับฝันเพ้อพกหรืออย่างไร???

อย่านอนรอความเปลี่ยนแปลงให้กระเพื่อมมาจากนอกชนชาติถึงจะกระพือสั่นไหว "ตามเค้า".

ลงมือทำ!! อย่ารอ!!
ลงมือทำ!! อย่ารอ!!
ลงมือทำ!! อย่ารอ!!
ประเทศอย่าทำตัวเหมือนเด็กที่ยังทำอะไรเองไม่เป็น (เด็กบางคนยังทำอะไรเองไปแล้วตั้งมากมาย) อย่าเอาแต่ตามข่าวคนชนชาติอื่น ๆ ทำอะไรสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแต่คนไทยต้องรอเรียนจบก่อนซัดไปอายุ 20 กว่าก็ยังไม่ค่อยจะทำอะไร นอกจากมาคลี่แบงค์โชว์ในอินเตอร์เน็ต!!

ประเทศ คือ ประชาชน. ไม่ใช่หมายถึงที่ดินเปล่า ๆ ที่ทำอะไรเองไม่ได้ จะวิวัฒน์ประเทศคือต้องเคลื่อนไหวที่ประชาชนที่คนเรานี่แหละ ลงมือทำกันเยอะ ๆ มันได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำไปด้วยอยู่แล้ว ไม่ใช่เรียนเยอะ ๆ แต่ดันไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วก็บอกว่าเรียนแล้วไม่เห็นเอาไปใช้อะไรได้ ..ก็ไม่เคยลงมือ "ทำบ้าง ..ทำผิดบ้าง ..ถูกบ้าง" ..จะรู้อะไรล่ะครับ? //ถ้าใครลงมือทำในรูปกิจการหรือธุรกิจแล้วล้ม มันเจ็บครับ แต่ก็ต้อง "ช่างมัน" นั่นแหละครับ คุณก็ได้รู้บ้างว่าไอ้ที่เรียนมายกหูชูหาง (สำนวนท่านพุทธทาส) ไว้นักหนานั้นมันใช้ได้หรือไม่?? ไงครับ. (คุณก็จะพบว่าคนเรามันก็เท่ากันนั่นแหละครับ จะได้รู้ด้วยว่า ที่ผู้มีประสบการณ์เค้าบอกว่า เวลาลงมือทำต้องทิ้งตำราให้หมด นั้นมันเป็นยังไง)

//// ลองนึกภาพคนที่เรียนทฤษฎีดนตรีมาเยอะ ได้วุฒิฯ ได้ใบบ้ามามากมาย แต่พอจับสะพายกีต้าร์แล้วถีบขึ้นเวที กลายเป็นไปยืนใบ้ แม้แต่จะเล่นให้ผิดยังไม่กล้าดีดซักแอะนั่นหน่ะ.. จะเผาตำรายังไม่กล้าเลย ทั้งที่รู้ซึ่งหน้าคาเวทีว่านึกไล่ทีละบทยังเล่นไม่ได้อย่างนั้น..

ถ้าไม่รีบพาลงจากเวทีซักพักคงเริ่มเล่นแบบฝึกหัดออกมาซะละมั้ง?? ////

"ความล้มเหลวคือระหว่าง..อย่ายอมรับว่าเป็นผล."
ต้องตั้ง mind set กันใหม่นะครับ.
ล้มเพื่อลุกครับ ไม่ใช่เพื่อกลบฝัง
"ยังไม่ตายยย!!".

ป.ล.คงเหมือนเวลาพูดเรื่องศาสนาพุทธ ที่ต้องแยกมิติออกมาว่าพูดถึงศาสนา หรือประเพณียกหูชูหาง. (พูดถึงการศึกษาในไทย ต้องแยกว่ากำลังพูดถึงการศึกษา หรือประเพณียกหูชูหาง)

Comments

Popular posts from this blog

กำลังปรับปรุงกราฟิกของเว็บนะครับ

สมาธิตื้น สมาธิลึก