เอาจริง ๆ ผมไม่อยากให้เรามีวัฒนธรรมหนุนเด็ก ๆ ให้นิยมความมีอำนาจหน้าที่โดยไม่มีทักษะ
. . .
การมีหรือแผ่ขยายอำนาจ เป็นบริบทแบบที่เรียกกันว่า "เข้าสังคม" ซึ่งมันเริ่มด้วยแนวคิดมักง่ายแบบ "จงมีคอนเนคชั่น" ..และดันเป็นการซื้อหา จัดหา ไม่ใช่ว่าสร้างความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันจริง ๆ อย่างการปลูกฝังความซืื่อสัตย์ขึ้นมา, แต่กลับใช้วิธีคัดเลือกแบ่งชนชั้น และความเห็นด้วยไม่เห็นด้วยกับการเลือกชนเลือกชั้น
. . .
การใช้อำนาจผ่านคอนเนคชั่นที่พร้อมแทงกันข้างหลัง ..เป็นทักษะเดียวที่พวกเขามีกันอยู่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ทศววรษ หรือศตวรรษ
. . .
คอนเนคชั่นที่มีขึ้นเพื่อแทงหลังคนในชั้นเดียวกัน ทั้งไม่ซื่อสัตย์อย่างชัดเจน และน่าสมเพช
แม้แต่ระดับกระทรวงทบวงกรมของรัฐ

นิยมอำนาจ เพราะขาดทักษะ
. . .
ทักษะคือปัญญา

อำนาจไม่ใช่ปัญญา ยิ่งใช้ยิ่งดื้อ ยิ่งโง่ และสิ้นเปลือง
. . .
บางกลุ่มชน ใช้หลักการของ "สิทธิ" มาเปรี้ยวหาอำนาจให้ตัว ใช้คำจนฟุ้งเฟ้อกระทั่งฟุ้งซ่าน, ทักษะก็มลายหายสิ้น สุดท้ายทำเป็นแต่การประท้วง เรียกร้อง บีบบังคับ ใช้บางสิ่งหรือบางคนต่อรองราวกับตัวประกัน บางวันก็ใช้ประเทศ

ผ่านวันผ่านปี ก็ไม่เห็นว่าจะนำเสนออะไรที่ให้เป็นประจักษ์ว่าทักษะมี หากได้สิ่งที่เรียกร้องปาว ๆ นั้นมาเป็นอำนาจหน้าที่ในวันหนึ่งข้างหน้า

แต่ก็็กลายเป็นลัทธิเอาอย่างไปได้ คือทำตัวไม่ต่างกับฝ่ายที่ไปโจมตี และพาลกระทั่งคนที่มีทักษะจริง ๆ เข้าด้วย

..เพียงเพราะเขาไม่ได้ร่วมสังฆเวรสังฆกรรมคอนเนคชั่น ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ทำ ๆ
- - -
ความซื่อสัตย์ ควรเป็นทักษะตั้งต้น ก่อนออกจากบ้านไปผูกสัมพันธ์กับใคร และมันใช้กับการทำความรู้จักกระทั่งทั้งเอกภพ

ความซื่อสัตย์ ทำให้คนอัพเกรดเป็นมนุษย์ได้ตามอุดมคติ

Comments

Popular posts from this blog

สมาธิตื้น สมาธิลึก

รีวิว เปรียบเทียบระหว่าง SEIKAI ART MARKER กับ COPIC Sketch [review and comparison]

Mind Set การศึกษาและอาชีพที่ลบยากในคนไทยยุคที่เชื่อมต่อกันมาและกันไปนี้..